สำหรับคนบ้าเที่ยวสวนสนุกแบบเรา Universal Studios Singapore (USS) เป็นหนึ่งในสวนสนุกที่ประทับใจที่สุดเลยค่ะ ครบครันทั้งเครื่องเล่นสนุกสุดเหวี่ยง, การแสดงโชว์ตื่นตาตื่นใจ, ตัวละครน่ารักละลานตา, และการบริการที่ดีเยี่ยมของพนักงาน คุ้มค่าค่าตั๋วทุกบาทจริงๆ
ตลอด 7 ชั่วโมงที่อยู่ในสวนสนุกอบอวลไปด้วยความสุข มันเป็นดินแดนมหัศจรรย์จริงๆ แม้คนจะเยอะ แดดจะร้อน ฝนจะตก ก็มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้เลย
เราไปเที่ยวช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2022 ตรงกับเทศกาลมินเนี่ยนพอดี เจอคนแต่งตัวด้วยเสื้อสีเหลืองกับเอี่ยมยีนส์แบบเจ้ามินเนี่ยนเต็มไปหมด น่ารักมากๆ เลย
เช็คเวลาเปิดปิดสวนสนุก
เรื่องแปลกคือ เราเช็คเวลาเปิดปิดสวนสนุกบน Google และบนเว็บไซต์ทางการของ Universal Studios Singapore แล้ว ซึ่งเว็บแจ้งว่าเปิด 12PM – 7PM ปรากฏว่าวันที่ไปสวนสนุกเปิด 10AM – 5PM ค่ะ
โชคดีที่วันนั้นเราตั้งใจจะไปคาสิโนซึ่งอยู่ติดกับสวนสนุกก่อน เลยบังเอิญเดินผ่านถึงได้เห็นว่า อ้าว! สวนสนุกเปิดแล้วนี่! จึงได้เที่ยวสวนสนุกครบเวลาพอดี
ดังนั้นแนะนำให้ลองทักไปถามเวลาเปิดปิดที่แน่นอนจากทางเพจ Facebook หรือแวะไปดูตอน 10 โมงก็ได้ค่ะ ถ้าสวนสนุกยังไม่เปิดจริงๆ แถวนั้นมีที่ให้เดินเที่ยวถ่ายรูปรอเพียบ จะได้ไม่พลาดโอกาสหากสวนสนุกเปิดก่อนเวลาค่ะ
บัตรเข้าสวนสนุก คูปองอาหารและของที่ระลึก
ช่วงที่เราไปเป็นเทศกาลมินเนี่ยน จึงมีแต่บัตรเข้าสวนสนุกแบบ Minions Groovy Summer จำหน่ายค่ะ ไม่มีบัตรเข้าสวนสนุกธรรมดาเลย ซึ่งบัตรเข้าสวนสนุกธรรมดา ราคา ~1,900 บาท ส่วนแพ็กเกจมินเนี่ยนราคา ~2,500 บาท โดยเราซื้อผ่าน Klook หลังใช้โค้ดส่วนลดแล้วเหลือ ~2,300 บาทค่ะ
เราว่าแพ็กเกจมินเนี่ยนคุ้มค่ามาก โดยได้สิทธิ์ดังนี้
- บัตรเข้าสวนสนุก 1 วัน
- คูปองส่วนลดอาหาร 10 SGD (ไม่มีขั้นต่ำ)
- คูปองฟรีป็อปคอร์นมินเนี่ยน 1 แก้ว
- คูปองฟรีสินค้าจากร้านของที่ระลึกมูลค่า 20 SGD (ไม่มีขั้นต่ำ)
- คูปองส่วนลดสินค้ามินเนี่ยน 5 SGD (ใช้จ่ายขั้นต่ำ 15 SGD)
เราทานข้าวกลางวันที่ร้าน Mel’s Drive-In โดยเลือกชุดเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายและน้ำอัดลม ราคา 21 SGD ได้ส่วนลด 10 SGD จึงจ่ายจริงเพียง 11 SGD (~280 บาท) ทางร้านเขียนระบุว่ารับจ่ายเงินผ่านบัตรเท่านั้น แต่เราลองถามพนักงานแล้ว เขาบอกว่าถ้าไม่มีบัตรจริงๆ จ่ายเป็นเงินสดได้ แต่ถ้าคุณมีบัตร อยากให้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า เราเลยใช้บัตร Travel Card ของ Planet SCB จ่ายค่ะ
อย่างที่บอกว่าช่วงที่เราไปเป็นเทศกาลมินเนี่ยน มีแต่ตั๋วแพ็กเกจมินเนี่ยนขาย หมายความว่าทุกคนก็จะได้คูปองเหมือนกันและมาใช้คูปองที่เดียวกัน! ดังนั้นเลยรออาหารนานมาก เกือบ 40 นาที ต่อคิวรับป็อปคอร์นฟรีอีก 30 นาที
ถ้าไม่อยากรอคิวนาน แนะนำให้รีบใช้คูปองก่อนค่ะ อย่ารอจนสวนสนุกใกล้ปิด เพราะทุกคนมีคูปองที่ยังไม่ได้ใช้เหมือนกันเลยมารวมอยู่ที่เดียวกัน ก่อนสวนสนุกปิดราว 1 ชั่วโมง คนมากรูกันที่ร้านขายของที่ระลึกและต่อแถวรับป็อปคอร์นจนยาวเหยียดเลย
เราใช้คูปองแลกสินค้าฟรี 20 SGD ตั้งแต่ช่วงบ่าย คนยังน้อย เดินเลือกสินค้าสบายและไม่ต้องต่อคิวเลยค่ะ ส่วนเพื่อนเรามาแลกคูปองตอนสวนสนุกใกล้ปิด ต้องต่อคิวเกือบ 40 นาที และไม่ได้เลือกของเต็มที่เพราะคนเบียดเสียดกันแน่นร้าน
ซื้อบัตร Express ดีไหม? แล้วควรซื้อ Express หรือ Express Unlimited?
บัตร Universal Studios Singapore Express และ Universal Studios Singapore Express Unlimited เป็นบัตรเสริมจากบัตรเข้าสวนสนุกค่ะ โดยมีความแตกต่างกันดังนี้
- บัตรเข้าสวนสนุก : ใช้เล่นเครื่องเล่นได้ทั้งหมด กี่รอบก็ได้ แต่ต้องต่อคิวทุกครั้ง
- บัตร Express : ใช้ลัดคิวเครื่องเล่นได้ทุกเครื่องอย่างละ 1 ครั้ง (ยกเว้นเครื่อง Canopy Flyer) หลังจากนั้นถ้าอยากเล่นซ้ำ ต้องต่อคิวปกติ
- บัตร Express Unlimited : ใช้ลัดคิวเครื่องเล่นได้ทุกเครื่อง (ยกเว้นเครื่อง Canopy Flyer) ไม่จำกัดครั้ง เล่นซ้ำกี่ครั้งก็ได้ ไม่ต้องต่อคิวเลย
สรุปแล้วยังไงก็ต้องซื้อบัตรเข้าสวนสนุก แต่จะซื้อบัตร Express/Express Unlimited เพิ่มด้วยหรือไม่ ลองตัดสินใจดูตามนี้ค่ะ
วันที่เราไปเป็นวันศุกร์ คนเยอะแบบครึกครื้น ไม่เบียดเสียด แถวเครื่องเล่นยาวมากแต่ขยับไว รอคิวประมาณ 15 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วแต่ความฮิตของเครื่องเล่น
ส่วนตัวเราแนะนำบัตร Express อย่างยิ่ง การจ่ายค่าบัตร Express ราคา 1,327 บาทเพื่อประหยัดเวลารอคิวรวมแล้วหลายชั่วโมง ถือว่าคุ้มค่าสำหรับเรา ที่สำคัญอากาศร้อนจัด แถมเราเดินทั่วสวนสนุกจนปวดขา ถ้าต้องไปยืนรอคิวนานๆ อีก เราคงถอดใจไปหลายเครื่องเล่นอยู่
เครื่องเล่นสนุกๆ ที่เราอยากเล่นซ้ำมี 3 เครื่องจากทั้งหมด 13 เครื่อง ดังนั้นบัตร Express จึงเพียงพอสำหรับเราค่ะ ไม่ต้องถึงขั้น Express Unlimited ซึ่งเราได้เล่นเครื่องเล่นที่ต้องการครบ ได้เดินเล่น ถ่ายรูป กินข้าว ช้อปปิ้ง ใช้เวลาครบตั้งแต่สวนสนุกเปิดยันปิดพอดีเลยค่ะ
ฝากของฟรีที่ตู้ล็อกเกอร์
เครื่องเล่นไหนที่ไม่อนุญาตให้นำสัมภาระเข้าไปด้วย จะมีตู้ล็อกเกอร์ฝากของอยู่ข้างๆ เครื่องเล่นนั้นค่ะ เป็นตู้ฝากอัตโนมัติ ทำรายการที่เครื่อง เครื่องจะเลือกตู้ฝากให้เราเอง
ระยะเวลาการฝากฟรีแตกต่างกันไปตามแต่ละเครื่องเล่น เช่น รถไฟเหาะสุดฮิต Battlestar Galactica ที่รอคิวนานที่สุด สามารถฝากฟรีเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ถ้าเกิน 1 ชั่วโมงจะเสียเงิน ส่วนล็อกเกอร์ของเครื่องเล่นอื่นๆ ที่รอคิวสั้นกว่า สามารถฝากฟรีได้ 15 – 30 นาที
ดังนั้นถ้าไม่อยากเสียค่าฝากของ แนะนำให้ฝากที่ตู้ล็อกเกอร์ Battlestar Galactica เพราะฝากได้นานที่สุด เมื่อใกล้ครบชั่วโมง ก็มาเอาของออกและเปลี่ยนไปฝากตู้ใหม่ค่ะ ตู้จะเริ่มนับเวลา 1 ชั่วโมงใหม่ ตอนที่เราไปมีตู้ว่างเหลือเฟือจึงไม่ต้องห่วงเรื่องตู้จะเต็มค่ะ
เรียงลำดับเครื่องเล่นหวาดเสียว กรี๊ดคอแตก!
ขอรีวิวเครื่องเล่นโดยเรียงลำดับจากหวาดเสียว น่ากลัว กรี๊ดจนคอแหบ ไปจนถึงเครื่องเล่นระดับเด็กน้อย ตะมุตะมิ ดีต่อใจดังนี้ค่ะ
1. Battlestar Galactica : CYLON
รถไฟเหาะที่หวาดเสียวที่สุดใน Universal Studios Singapore ต้องยกให้เครื่องนี้เลย! เป็นรถไฟเหาะนั่งห้อยขา ปกติแล้วรถไฟเหาะที่เราเคยขึ้นจะค่อยๆ ไต่ระดับช้าๆ เพื่อสร้างอารมณ์แล้วค่อยดิ่งลงใช่มั้ย? แต่เครื่องนี้ไม่ใช่ค่า ไม่มีเวลาให้เตรียมใจใดๆ พอไฟเขียวแล้ว รถไฟเหาะพุ่งทะยานสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพล่นเลย ขึ้นดิ่งหมุน 360 องศา มันส์มากและเจ็บคอมากเช่นกัน 😂 กรี๊ดจนคอแหบตั้งแต่ต้น
2. Revenge of the Mummy
นี่เป็นเครื่องเล่นที่เรากลัวมากที่สุดค่ะ เนื่องจากเป็นรถไฟเหาะในความมืด แล้วฉันหลอนอิมโฮเทปจากหนัง The Mummy มาตั้งแต่เด็กแล้ว เครื่องเล่นนี้เหมือนเราหลุดไปในพิธีกรรมปลุกมัมมี่อียิปต์ที่เคยดูในหนังจริงๆ ยิ่งเรานั่งริมยิ่งหลอนว่ามัมมี่มันจะยื่นมือมาโดนเราหรือเปล่า ฮ่าๆ กระตุ้นอะดีนาลีนสุดๆ ค่ะ
3. Jurassic Park Rapids Adventure
ล่องแก่งมหาภัยส่องไดโนเสาร์ที่ทำเอาเปียกปอนทั้งตัว ช่วงแรกมาเนิบๆ น่ารักๆ ส่องสัตว์ป่า ช่วงหลังลุ้นระทึก จังหวะเข้าห้องแลปที่ถูกทิ้งร้าง ขึ้นลิฟต์แล้วเจอทีเร็กซ์ยื่นหัวมา ดิ่งลงจากน้ำตก 90 องศา ตู้ม! หวาดเสียวท้องและมันส์มากค่ะ ชอบโมเมนต์นั้นมาก เรากับเพื่อนได้นั่งล่องแก่งเดียวกับครอบครัวพ่อแม่และลูกๆ อีก 3 คน ซึ่งนั่งล้อมกันเป็นวงกลมหันหน้าเข้าหากัน พอถึงจังหวะหวาดเสียว โดนน้ำสาด ก็จะหันมาหัวเราะให้กันแบบสนุกอะ อิ่มเอมใจ
4. Battlestar Galactica : HUMAN
รถไฟเหาะคู่ขนานของ Battlestar Galactica : CYLON ค่ะ ต่างกันที่อันนี้มีที่วางเท้า จึงรู้สึกอุ่นใจกว่า และสำหรับเรามันไม่ได้ดิ่งและตีลังกากลับหัวเท่า CYLON สนุกมันส์กำลังดีค่ะ
5. Canopy Flyer
รถไฟเหาะห้อยขาสุดมันส์อีกเครื่อง เป็นเครื่องเล่นเดียวที่ไม่มีทางเข้าพิเศษสำหรับบัตร Express ทุกคนต้องต่อคิว แถวยาวเหยียดมาก แต่รอคิวจริงเพียง 15 นาทีค่ะ ทีแรกก็เอ๊ะ แถวขยับไวจัง สงสัยเครื่องเล่นมีที่นั่งเยอะ ปรากฏว่าเปล่าค่ะ ที่ขยับไวเพราะเครื่องเล่นวิ่งยังไม่ถึง 1 นาทีเลย ไวเกิน! สนุกนะ หวาดเสียว แต่พอกำลังจะพีค เอ้า! เข้าสถานีเฉย หันมากระพริบตาปริบๆ กับเพื่อน อิหยังวะ? จบแล้วหรอคะ? 😳 คนเล่นงง ฮ่าๆ
6. Transformers: The Ultimate 3D Battle
เครื่องเล่นนี้ทำให้เราอยากกลับมาดูหนัง Transformers~ สารภาพว่าไม่เคยชอบหนัง Transformers เลย จนกระทั่งมาเล่นเครื่องเล่นนี้ทำให้เราอยากกลับไปตั้งใจดูหนังอีกรอบ เพราะเครื่องเล่นสนุกมาก! เป็นการผจญภัย 4D เหมือนเราติดอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ในเมืองระหว่างพวก Optimus Prime และพวก Megatron ดูสมจริง อิน เอาใจช่วย ตอนจบถึงกับต้องปรบมือรัวๆ สนุกมาก
7. Enchanted Airways
รถไฟคุณหนู(ปลอม)ที่เราและเพื่อนๆ เรียกกัน เพราะมองจากไกลๆ มันดูเป็นรถไฟตะมุตะมิน่ารัก รางสีชมพูอ่อนหวาน ซึ่งระหว่างที่รอคิวอยู่นั้น ก็เห็นเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้เด็กวัยประถมคนหนึ่งขึ้น เรากับพ้องเพื่อนก็มองหน้ากันปริบๆ ว่า ‘ทำไมรถไฟคุณหนูถึงห้ามไม่ให้เด็กขึ้นนะ?’ พอได้เล่นจริงๆ ก็ถึงบางอ้อเลย มันไม่คุณหนูอย่างที่คิดน่ะสิ!
8. Puss In Boots’ Giant Journey
ชมเรื่องราวการผจญภัยของเจ้าแมวส้มในรองเท้าบูท Puss In Boots อันนี้ทั้งสนุกและน่ารักมากค่ะ ระดับความหวาดเสียวพอๆ กับ Enchanted Airways คือเครื่องเล่นสนุกเพราะมันเร็วมาก แต่ไม่ได้มีหมุนดิ่งตีลังกาใดๆ ให้เวียนหัวค่ะ
9. Sesame Street Spaghetti Space Chase
นี่สิรถไฟคุณหนูของจริง! การผจญภัยของเหล่า Sesame Street เพื่อกอบกู้สปาเกตตี้ มันน่ารักไปหมด เป็นเครื่องเล่นเดียวที่เราถ่ายวิดีโอได้ เพราะเครื่องเล่นไปช้าๆ เนิบๆ ตรงๆ ไม่มีความหวาดเสียวใดๆ
10. Accelerator
เครื่องเล่นถ้วยหมุน 360 องศา เป็นอีกเครื่องที่ไม่มีความหวาดเสียวใดๆ เหมือนมานั่งพักกายพักใจเฉยๆ ค่ะ
11. Shrek 4-D
เครื่องเล่นยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องการพักขาค่ะ เหมือนเราอยู่ในโรงหนัง นั่งชมภาพยนตร์สั้น 20 นาที เรื่องราวของ Shrek ที่ต้องช่วยเจ้าหญิง Fiona ที่ถูกลักพาตัวไป เป็นหนัง 4D มีเก้าอี้สั่น มีละอองน้ำพุ่งออกมา แต่ไม่ถึงกับเปียก แอร์เย็นสบาย แนะนำให้เล่นเป็นเครื่องท้ายๆ สำหรับตอนที่ต้องการพักร่างจากเครื่องเล่นหฤโหดทั้งหลายค่ะ
ส่วนอีก 2 เครื่องเล่นที่เราไม่ได้เล่นคือ ม้าหมุน King Julien’s Beach Party-Go-Round และเครื่องบิน Dino-Soarin’ ค่ะ เนื่องจากมีแต่พ่อแม่พาลูกน้อยมาเล่น เราเลยขอข้ามไป
ไอเทมที่ควรพกติดตัว
เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวมาก สลับกับฝนตก ไอเทมแรกที่ควรมีคือ เสื้อกันฝน เพราะยังไงเครื่องเล่นล่องแก่ง Jurassic Park ต้องเปียกทั้งตัวแน่นอน ถ้าซื้อเสื้อกันฝนที่เครื่องเล่น ราคา 5 SGD (~127 บาท) เลยแนะนำให้พกจากเมืองไทยไปถูกกว่าเยอะ
นอกจากนี้ไอเทมช่วยชีวิตเรายังมีพัดลมห้อยคอ, พัด, ยาดมและสเปรย์เย็นค่ะ ช่วยเพิ่มพลังชีวิตจากอากาศร้อนๆ ได้ดี
ไอเทมสุดท้ายคือขวดน้ำ เนื่องจากราคาน้ำดื่มในสวนสนุกแพงมาก ถ้าต้องการประหยัดแนะนำให้พกขวดน้ำไปกรอกน้ำดื่มฟรีค่ะ เราเห็นคนไปกรอกเยอะ คิดว่าสะอาดปลอดภัยค่ะ
