สรุปหนังสือฉันจะไม่แก่ไปเป็นคนที่ตัวเองเกลียด : คู่มือหยุดอาการ ‘อ่อมแก่’

Readers’ Garden เล่มที่ 123

ตอนเด็ก ๆ คุณเคยไหม มองผู้ใหญ่บางคนแล้วคิดในใจว่า…

“ฉันจะไม่มีวันโตไปเป็นแบบนั้นแน่ ๆ”

✓ ผู้ใหญ่ที่หน้าบึ้งเป็นประจำ
✓ พูดจาข่มคนอื่นเพราะตัวเอง “อาบน้ำร้อนมาก่อน”
✓ เอาแต่เล่าซ้ำเรื่องเดิม ๆ จนคนรอบตัวถอนใจ
✓ บ่นเรื่องอาการเจ็บป่วยจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน

เราหลายคนเคยตั้งปณิธานไว้แบบนั้นจริงจัง แต่พอเติบโตขึ้นมา ผ่านชีวิตที่ไม่ง่ายนัก คุณอาจพบว่า คุณเองก็เริ่ม ‘อ่อมแก่’ เหมือนกัน

เช็คลิสต์ ‘อ่อมแก่’

ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเริ่มอ่อมโดยไม่รู้ตัวแล้วหรือยัง ลองมาดูเช็คลิสต์นี้กัน

▢ คุณชอบพูดถึง “วันเก่า ๆ” มากกว่าอนาคตใช่ไหม

▢ คุณโกหกหมอบ่อย ๆ ใช่ไหม (เรื่องนอนพอ ดื่มน้อย กินยาตรงเวลา ฯลฯ)

▢ คุณรำคาญคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ดู “ไม่รู้จักคิด” หรือเปล่า

▢ คุณเริ่มไม่ใส่ใจเรื่องมารยาทกับคนที่ด้อยกว่าหรือเด็ก ๆ หรือเปล่า

▢ คุณไม่ชอบส่องกระจก เพราะไม่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง

▢ คุณอยากแต่งตัวสนุก ๆ แต่ก็กลัวโดนว่าไม่เหมาะสมกับวัยใช่ไหม

▢ คุณเริ่มปกปิดความแก่ ด้วยการย้อมผม หรือไม่ยอมใช้ไม้เท้าแม้จะลำบาก

ถ้า “ใช่” มากกว่าครึ่งล่ะก็ อาจถึงเวลาหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านวันนี้เลย

Stupid Things I Won’t Do When I Get Old หรือชื่อไทยว่า ฉันจะไม่แก่ไปเป็นคนที่ตัวเองเกลียด ของ สตีเวน เพโทรว์ (Steven Petrow) และโรแซนน์ โฟลีย์ อองรีย์ (Roseann Foley Henry)





คุณคิดว่าคุณแก่แล้วหรือยัง?

บางคนบอกว่าเราเริ่มแก่เมื่ออายุแตะเลขหกสิบ บางคนว่าเมื่อเกษียณ เมื่อใครสักคนเรียกเราว่าลุงหรือป้า หรือเมื่อเราเริ่มบ่นเรื่องอาการปวดหลังเป็นกิจวัตร เหนื่อยง่าย และเริ่มไม่เข้าใจมุกของคนรุ่นใหม่ในที่ทำงาน

แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่ “ผลลัพธ์” ไม่ใช่ “ต้นเหตุ” ของความแก่

จิมมี่ คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้จากไปในวัย 100 ปี เขียนไว้ในหนังสือ The Virtues of Aging ว่า

คนเราจะแก่ก็ต่อเมื่อคิดว่าตัวเองแก่ เมื่อเรายอมรับแนวคิดเกี่ยวกับการถดถอยของร่างกาย การพึ่งพาอาศัยผู้อื่น รวมถึงข้อจำกัดเกี่ยวกับกิจกรรมทางร่างกายและจิตใจของเรา”

ไม่ใช่ตอนที่ผมเริ่มหงอก หรือเดินช้าลง แต่คือตอนที่เรายอมรับว่า ร่างกายจะเสื่อมถอย ความสามารถจะลดลง จะต้องพึ่งพาคนอื่นมากขึ้น และจะต้องเลิกทำอะไรหลายอย่างที่เคยทำได้

พูดอีกแบบคือ คุณเริ่มแก่ เมื่อคุณยอมแพ้ให้ความคิดแบบคนแก่

มันไม่ใช่แค่ร่างกายที่ช้าลง แต่วิธีคิดที่หยุดนิ่ง หยุดเรียนรู้ ปิดใจต่อสิ่งใหม่ ตัดบทคนรุ่นใหม่ด้วยคำว่า “สมัยก่อน…” และเอาประสบการณ์ในอดีตมายกหางตัวเอง

เมื่อความคุ้นเคยกลายเป็นที่หลบภัย
เมื่อการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นศัตรู
เมื่อคำว่า “ฉันเคย” มีน้ำหนักมากกว่าคำว่า “ฉันจะ”
เมื่อนั้นคุณก็กำลังแก่ในแบบที่คุณเคยสัญญากับตัวเองว่า “จะไม่เป็นแบบนั้นเด็ดขาด”

แก่…แต่ไม่ “อ่อม”

Stupid Things I Won’t Do When I Get Old เล่มนี้ไม่ใช่หนังสือที่บอกสูตรลับในการย้อนวัย หรือทำตัวให้ดูหนุ่มสาว ในทางกลับกัน หนังสือเล่มนี้สอนให้คุณยอมรับความแก่… แต่ไม่อ่อม

เพราะความแก่ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรกลัว แต่การใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ว่าคุณกำลังแก่ในแบบไหน นั่นแหละที่น่ากลัวจริง ๆ

เล่มนี้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนภาพที่จะทำให้คุณสะดุ้ง และทบทวนตัวเองว่า

“ถ้าฉันแก่ไปแบบนี้ ฉันจะภูมิใจในตัวเองไหม?”

เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะแก่อย่างมีคุณภาพ

การเมินเฉยต่ออายุที่มากขึ้น มักนำเราไปสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยความเสียใจ เสียใจที่ไม่ได้ดูแลสุขภาพ เสียใจที่ตัดขาดจากผู้คน เสียใจที่ยอมกลายเป็นคนที่ตัวเองเคยสาบานว่าจะไม่เป็น

สตีเวน เพโทรว์ ในวัย 60 ปี เข้าใจเรื่องนี้ดี และถ่ายทอด 43 คำแนะนำของการแก่ไปอย่างมีคุณภาพออกมาในหนังสือเล่มนี้

เขาไม่ได้เขียนจากมุมมองของคนรู้มากที่ต้องการสั่งสอน แต่เขียนในฐานะ รุ่นพี่ที่เคยพลาด เขาก็เคยเป็นหนึ่งในผู้ใหญ่ที่เขาเคยบ่นไว้ตอนวัยรุ่นว่า “จะไม่มีวันเป็นแบบนั้นเด็ดขาด”

ผ่านประสบการณ์การหย่าร้าง
การอยู่คนเดียวในวันที่สุขภาพถดถอย
การต่อสู้กับโรคร้ายที่พรากความแข็งแรงทางกายและความมั่นคงทางใจไปพร้อมกัน

แต่ตอนนี้เขากล้าหัวเราะให้กับตัวเอง กล้ายอมรับ และกล้าปรับตัว เพื่อเป็นคนวัย 60 ที่ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มีความสุข และเป็นที่พึ่งพาให้กับเพื่อน ๆ ต่างวัยมากมาย โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกหาว่าอ่อม





คำแนะนำก่อนคุณจะอ่อมจากคนวัย 60+

เราขอแบ่ง 43 คำแนะนำของสตีเวนออกเป็น 5 หมวดหมู่หลักที่จะทำให้พวกเราหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น

1. ร่างกายคุณ คือฐานรากของทุกอย่าง

“สุขภาพคือของที่ต้องดูแลทุกวัน ก่อนจะไม่มีวันซ่อมได้อีกต่อไป”

  • อย่ารอให้ป่วยก่อนค่อยรักษา สิ่งเดียวที่จะอยู่กับคุณไปจนวันสุดท้ายคือร่างกาย อย่าดูแลตัวเองเฉพาะตอนป่วย อย่าคิดว่าการตรวจสุขภาพเป็นเรื่องฟุ่มเฟือย มันคือ วินัยของคนที่อยากมีชีวิตดีในอนาคต
  • ดูแลสุขอนามัย หลายคนกลัว ‘กลิ่นคนแก่’ ที่มาโดยไม่รู้ตัว แต่มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันคือธรรมชาติ สิ่งที่คุณทำได้ คือใส่ใจ และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด อาบน้ำให้สะอาด เลือกกินของดี และใส่ใจกลิ่นกาย ความสะอาด คือความเคารพตัวเองในทุกวัย
  • เข้าห้องน้ำเสมอเมื่อมีโอกาส ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งรู้ว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญเท่าความสบายตัว ฝืนกลั้นปัสสาวะเพราะอาย อาจจบที่อับอายมากกว่า อย่ามองข้ามสิ่งเล็ก ๆ ที่ร่างกายกำลังขอความร่วมมือจากคุณ
  • ใช้อุปกรณ์ช่วยเมื่อจำเป็น เครื่องช่วยฟัง ไม้เท้า หรืออุปกรณ์พยุงต่าง ๆ ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความอ่อนแอ แต่คือความกล้าที่จะเชื่อมต่อกับโลกอีกครั้ง

2. ใจคุณ คือสิ่งกำหนดว่า “ยังไม่แก่”

คุณอาจเคยชินกับภาพคนแก่ที่อมทุกข์ ขี้หงุดหงิด ไม่ยิ้ม ไม่อยากฟังใคร และถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่า “เออ…ฉันก็เป็นแบบนั้น” นี่แหละคือสัญญาณอันตราย

  • อย่าทำตัวเป็นคนแก่จอมอมทุกข์ เพราะคนไม่อยากอยู่ใกล้คุณ ไม่ใช่เพราะคุณแก่ แต่เพราะคุณขาดพลังชีวิต อย่าปล่อยให้ความขุ่นมัวภายในกลายเป็นลักษณะถาวรของใบหน้ หัวใจที่เหี่ยวเฉา ทำให้โลกทั้งใบดูมืดมัว
  • อย่ากลัวที่จะล้ม อย่ากลัวที่จะลอง หลายคนหยุดทำสิ่งใหม่ ๆ เพราะบอกตัวเองว่า “แก่เกินเรียน” “ร่างกายไม่สู้” หรือ “ดูไม่เหมาะกับวัย” แต่ความกลัวเหล่านี้ไม่เคยปกป้องคุณจากความแก่ มันแค่พาคุณแก่เร็วขึ้น…โดยที่ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม
  • คบเพื่อนต่างวัย เพื่อนที่อายุน้อยกว่าหรือมากกว่าจะพาคุณไปรู้จักโลกที่คุณอาจไม่เคยเข้าใจ และทำให้คุณหัวเราะกับอะไรโง่ ๆ ได้ คนที่ยังหัวเราะกับเรื่องเล็ก ๆ ได้ คือคนที่ยังไม่ปล่อยให้ใจแก่

3. อะไรควรเลิก ก็ต้องกล้าเลิก

  • เลิกแชร์ทุกเรื่องกับทุกคน คุณไม่จำเป็นต้องเปลือยใจทุกครั้งที่มีคนถามว่า “เป็นยังไงบ้าง” บางครั้งการเงียบไว้บ้าง ไม่ได้แปลว่าคุณไร้ตัวตน แต่แปลว่าคุณรู้จัก เก็บบางเรื่องไว้เป็นพลังงานภายใน ไม่ต้องเปิดเผยทุกแผลเพื่อยืนยันว่าคุณยังสำคัญ
  • เลิกเล่าเรื่องเก่าในอดีตซ้ำ ๆ ความทรงจำดี ๆ คือของขวัญ แต่ถ้าคุณเล่ามันซ้ำร้อยรอบ เพื่อย้ำว่าครั้งหนึ่งคุณเคย “เจ๋งแค่ไหน” มันจะกลายเป็นกับดักที่ทำให้คุณไม่ไปไหนเสียที ถึงเวลาสร้าง “เรื่องเล่าใหม่” ให้กับชีวิตตอนนี้ได้แล้ว
  • เลิกแข่งกันว่าใครป่วยกว่า บางวงสนทนากลายเป็นสนามแข่ง ใครมีโรคเยอะกว่า เจ็บตรงไหนมากกว่า ใครกินยาเยอะกว่า การโตอย่างแท้จริงไม่ใช่การวัดกันด้วยความทุกข์ แต่คือการรู้ว่า จะอยู่กับมันอย่างสงบได้ยังไง

4. สิ่งที่ควรทำ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง

  • วางแผนเรื่องเงิน เรื่องสุขภาพ เรื่องเอกสาร ไม่ใช่ทุกอย่างจะปล่อยให้ “เดี๋ยวค่อยคิด” ได้
  • ถ้าคุณยังไม่เริ่มวางแผนวันนี้ ชีวิตคุณในวันข้างหน้า…จะเต็มไปด้วยคำว่า “รู้งี้” การวางแผนไม่ใช่เรื่องของความระแวง แต่มันคือการเคารพตัวเอง และคนที่คุณรัก
  • ทำพินัยกรรมให้ชัด ไม่มีใครชอบคิดถึง “วันสุดท้าย” แต่ความกล้าที่จะเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า
    คือของขวัญที่คุณมอบให้ครอบครัวอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อควบคุมอะไรหลังจากคุณไม่อยู่ แต่เพื่อให้คนที่ยังอยู่…ไม่ต้องสับสน ไม่ต้องปวดใจซ้ำสอง
  • อะไรที่ควรทำวันนี้ ทำวันนี้ ความรู้สึก “เดี๋ยวก่อน” มักจูงมือคุณไปสู่คำว่า “ไม่ทันแล้ว” ชีวิตไม่เคยรอให้ใครพร้อม อยากโทรหาใคร… โทร อยากขอโทษใคร… ขอโทษ อยากทำอะไร… เริ่มเลย

5. ใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีอะไรค้างในใจ

  • อย่าอยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้วตายไปอย่างเงียบเหงา คุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเป็นร้อย แค่มีใครสักคนที่พร้อมรับฟัง และคุณก็กล้าเปิดใจ ความสัมพันธ์ไม่ได้เกิดขึ้นเอง มันต้องถูก ใส่ใจ และ สร้างไว้ ตั้งแต่ตอนที่คุณยังมีแรงจะยิ้มให้กัน
  • บอกรัก บอกลา บอกความในใจให้บ่อยขึ้น อย่ารอให้ถึงวันที่ “ไม่มีโอกาสแล้ว” บางครั้งแค่คำง่าย ๆ อย่าง “ขอบคุณนะ” หรือ “ฉันรักเธอ” ก็เปลี่ยนทั้งวันของอีกคนได้แล้ว พูดให้เขาได้ยินในวันนี้ ดีกว่าต้องพูดผ่านงานศพ
  • เลิกใช้ชีวิตแบบ “ขอแค่ผ่านไปวัน ๆ” แล้วหวังว่าอนาคตจะดีขึ้นเอง ถ้าคุณไม่ลุกขึ้นทำอะไรสักอย่างในวันนี้ วันพรุ่งนี้…มันก็จะเป็นแค่ “อีกวันหนึ่งที่ซ้ำเดิม”

⋆。☁︎。⋆。 ☾ 。⋆

คุณไม่สามารถหยุดอายุไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ แต่คุณสามารถ “เลือกได้” ว่าจะแก่แบบไหน

Stupid Things I Won’t Do When I Get Old ไม่ใช่แค่หนังสือสำหรับ Baby Boomer, Gen X หรือ Gen Y แต่เป็นหนังสือสำหรับทุกคนที่อยากแก่แบบมีคุณภาพ และเลิกจำกัดตัวเองด้วย generation ที่คุณเกิด

เพราะหนึ่งในคำที่เราชอบมากจากเล่มนี้คือคำว่า ชาวเพอเรนเนียล (Perennial) คำที่ จีน่า เพลล์ (Gina Pell) ใช้เรียก คนทุกวัยที่ไม่ยอมให้คำว่า ‘แก่’  มาเป็นข้ออ้างในการหยุดเติบโต

คนที่ยังอยากรู้ อยากลอง อยากเติบโต
คนที่ยังอยู่กับโลก ไม่ตัดขาดจากผู้คน
คนที่ยังหัวเราะกับมุกเด็กวัย 20 และยังเป็นที่ปรึกษาให้คนวัย 50

คุณก็เป็นชาวเพอเรนเนียลได้ ถ้าเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เสียดายเมื่อมองย้อนกลับมา

หนังสือเล่มนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้คุณกล้าแก่ในแบบที่ภูมิใจตั้งแต่วันนี้ค่ะ





Picture of Cookie

Cookie

นักการตลาดโดยอาชีพ นัก Artistic Pole & Aerialist สมัครเล่น ชอบสร้างสรรค์ digital template แจกโดยสมัครใจ และสมัครไปปีนเขาทุกปี

CREATIVE LAB

LIFE DESIGN TEMPLATES

Track your growth. Organize your mind. Design a life that works for you.

digital Notebook

Travel Planner Template

Notion Template

Wallpaper & Folder Icon

Self-design. Infinite possibilities. Spread Kindness.

คาเฟ่ดิจิทัล ☕︎ เสิร์ฟคอนเทนต์ทักษะชีวิต ปลดล็อกศักยภาพ และเครื่องมือออกแบบชีวิต ที่จะช่วยให้คุณค้นพบเป้าหมาย เป็นได้ทุกอย่างที่ใจต้องการ และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ

© All Rights Reserved.

2020 – 2025 SIS ACADEMY | by Ponglada Niyompong

Back to top