ฮิโระชิมะ (Hiroshima) เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์สันติภาพของประเทศญี่ปุ่น วันนี้ซิสขอพาเที่ยวหนึ่งวันเต็มในเมืองสงบสุขแห่งนี้ เดินเที่ยวได้แบบสบายๆ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอยู่ใกล้กันมาก ใช้เวลาเดินแค่ 5-20 นาที แถมบรรยากาศในเดือนธันวาคมก็เย็นสบาย เหมาะกับการเดินชิลล์ๆ ถ้าเมื่อยหน่อยก็นั่งรถบัสหรือรถรางเที่ยวได้ค่ะ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ
ทริปนี้ซิสเริ่มที่ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ (Hiroshima Peace Memorial Museum) ซึ่งห่างจากโฮสเทลที่ซิสพักแค่ 5 นาทีเอง ที่พักชื่อว่า Simple Stay Hiroshima Peace Koenmae น่าเสียดายที่ตอนนี้ปิดตัวไปแล้ว แต่ตัวพิพิธภัณฑ์ยังคงเป็นที่ต้องห้ามพลาด
ที่นี่บอกเล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจจากสงครามโลกครั้งที่สอง การโดนระเบิดปรมาณูที่เปลี่ยนแปลงเมืองทั้งเมืองไปตลอดกาล และการฟื้นตัวที่น่าทึ่งของฮิโระชิมะที่กลับมาสงบสุขอย่างที่เห็นในปัจจุบันค่ะ
ถึงจะได้ฟังได้อ่านเรื่องราวของเมืองฮิโระชิมะในประวัติศาสตร์มาหลายครั้ง แต่เมื่อได้เห็นของจริง ไม่ว่าจะเป็นเศษซากที่เหลือจากระเบิด เสื้อผ้า จักรยานที่บิดเบี้ยวจากความร้อน หรือภาพถ่ายของชาวเมืองที่ได้รับผลกระทบ มันสะเทือนใจมาก นี่คือบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรให้ซ้ำรอยจริงๆ
ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่แค่ 200 เยน (ประมาณ 47 บาท) เรียกได้ว่าคุ้มเกินคุ้ม ถ้ามาถึงฮิโระชิมะแล้ว ที่นี่คือจุดที่ต้องแวะค่ะ
สวนสันติภาพฮิโระชิมะ
ออกมาจากพิพิธภัณฑ์ ก็เดินต่อเข้าสู่ สวนสันติภาพฮิโระชิมะ (Hiroshima Peace Memorial Park) สวนที่สวยงามและเงียบสงบ ใครที่มาเดินเล่นที่นี่ต้องรู้สึกถึงความสงบในจิตใจจริงๆ ภายในสวนมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่มาเดินเล่นพักผ่อน บางทีก็เจอกลุ่มอาสาสมัครมาช่วยกันดูแลต้นไม้และทำความสะอาด
ไฮไลท์สำคัญคือ Children’s Peace Monument รูปปั้นเด็กหญิงที่สยายปีก สื่อถึงความหวังและสันติภาพ รูปปั้นนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเด็กหญิงซาดาโกะ ซาซากิ และเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดปรมาณู ตำนานนกกระเรียนพันตัวก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ยังคงอยู่จนถึงวันนี้ รอบๆ มีงานศิลปะจากนกกระดาษและงานพับกระดาษ Origami ที่ทำให้บรรยากาศยิ่งสวยงามและเต็มไปด้วยความหมาย
หออนุสรณ์สันติภาพแห่งชาติฮิโรชิมะ
ถัดจากพิพิธภัณฑ์ไปหน่อย จะพบกับหออนุสรณ์สันติภาพแห่งชาติฮิโรชิมะ (Hiroshima National Peace Memorial Hall) เป็นฮอลที่อยู่ภายในบริเวณสวนสันติภาพ รำลึกถึงผู้เสียชีวิต มีภาพ ชื่อ ประวัติ ห้ามถ่ายรูป ข้างในเงียบมาก เหมาะแก่การรำลึกเงียบๆ
โดมระเบิดปรมาณู
เดินเลยถัดจากสวนสันติภาพฮิโระชิมะ เจอกับอนุสรณ์สันติภาพ หรือโดมระเบิดปรมาณู (Hiroshima Atomic Bomb Dome) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของระเบิดปรมาณู เศษซากที่ยังตั้งอยู่ได้ เดิมทีโดมระเบิดปรมาณูหรือที่เรียกกันว่า Genbaku Dome ในอดีตเคยเป็นหอส่งเสริมอุตสาหกรรมจังหวัดฮิโระชิมะ อาคารนี้สร้างขึ้นในปี 1915 โดยออกแบบให้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการและส่งเสริมผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมท้องถิ่นของฮิโระชิมะ
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกถูกทิ้งลงมาบนฮิโระชิมะ และระเบิดใกล้กับหอส่งเสริมอุตสาหกรรม อาคารนี้จึงได้รับแรงระเบิดเต็มที่และถูกทำลายเกือบทั้งหมด เหลือเพียงโครงสร้างภายนอกบางส่วนที่ยังคงยืนอยู่ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหายนะจากสงครามและความสำคัญของการเรียกร้องสันติภาพ เห็นแล้วขนลุกเลยค่ะ
สวนชุคเคเอ็น
มาถึงเวลาเที่ยง ซิสขอพาไปปิคนิกทานข้าวกลางวันที่สวนชุคเคเอ็น (Shukkeien Garden) ค่าเข้าสวนแค่ 260 เยน (ประมาณ 60 บาท) ที่นี่เป็นสวนญี่ปุ่นโบราณที่สวยมากๆ เดินชมสวนไป ถ่ายรูปไปเพลินสุดๆ ซิสซื้อของง่ายๆ จากร้านสะดวกซื้อมาทานในศาลาในสวน บรรยากาศดีจนใจฟู
เจอลุงที่ดูแลสวนมาชี้ให้ดูหินนางฟ้า สื่อสารกันไปมาจนเข้าใจว่าหินนี้คือหินที่นำโชคดีมาให้ ใครมาอย่าลืมแวะดูนะ
ปราสาทฮิโรชิม่า
จากสวนเดินต่อไปถึงปราสาทฮิโระชิมะ (Hiroshima Castle) ปราสาทโบราณที่มีความอลังการงานสร้างสุดๆ เห็นของจริงแล้วว้าวมาก!
ข้างในมีโชว์ชุดเกราะนักรบ นินจา ซามูไร ใครชอบประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นต้องถูกใจแน่นอน แถมยังได้ปีนขึ้นไปข้างบนปราสาทที่สูงจนหวาดเสียว ถ่ายรูปเก็บวิวเมืองแบบพาโนราม่าไปอีก
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก
ปิดท้ายที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กที่ผู้ใหญ่อย่างเราก็สนุกไม่แพ้กัน! ที่นี่คือแดนสนุกของสายวิทยาศาสตร์ค่ะ ซิสไปถึงตอนที่ท้องฟ้าจำลองกำลังจะฉายพอดีเลยรีบเข้าไปดู สนุกและสวยมาก แต่แอบหลับไปบางช่วงเพราะเบาะนั่งสบายเกิน ฮ่าๆ ข้างนอกยังมีกิจกรรมวิทยาศาสตร์ให้ได้ทดลองทำเพียบ นึกถึงรายการวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์สิ่งของสมัยเด็กอย่าง Fingertips หรือ Art Attack เลยค่ะ
˖⁺‧₊⟡₊˚⊹
ทั้งหมดนี้ซิสเดินเที่ยวตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น ก่อนที่จะโบกมือลาเมืองแห่งสันติภาพ และนั่งรถไฟไปต่อที่เมืองทตโตริเพื่อไปเยี่ยมชมเมืองโคนัน บอกเลยว่าวันเดียวเที่ยวคุ้ม สนุก และได้ซึมซับประวัติศาสตร์กับธรรมชาติสวยๆ
