Readers’ Garden เล่มที่ 126
ถ้าหากวันนี้คุณกำลังกลุ้มใจเพราะ…
ไม่มีรูปเที่ยวหรู ๆ ลงโซเชียลมีเดีย
ไม่หล่อสวยพอจะโพสต์เซลฟี่
ไม่ประสบความสำเร็จพอจะแชร์เรื่องราว
ไม่มีดีพอตามที่สังคมกำหนด
จะคิดมากไปทำไม ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยทำพลาดเลย…
ประโยคบอกเล่านี้คือชื่อหนังสือขายดีอันดับ 1 จากญี่ปุ่น โดยคุณ ฟุกาอิ ริวโนะซุเกะ ผู้ก่อตั้งบริษัท COTENT ซึ่งรวบรวมฐานข้อมูลประวัติศาสตร์โลก และเป็นเจ้าของพอดแคสต์รายการประวัติศาสตร์ชื่อดังของญี่ปุ่น
คุณฟุกาอิจะพาคุณถอยออกมา มองชีวิตจากเลนส์ประวัติศาสตร์ แล้วคุณจะเห็นภาพชัดขึ้นว่า หลายสิ่งที่คุณกำลังกลุ้มใจอยู่ มันไม่สำคัญขนาดนั้นเลย
คำถามจริง ๆ คือ… อะไรทำให้คุณทุกข์?
วันนี้คุณกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่บ้าง… เงิน? ความรัก? ครอบครัว? การงาน? ความสำเร็จ?
ก็ใช่ทั้งหมดนั้นแหละ!
แต่ถ้าเจาะลึกลงไปจริง ๆ ความทุกข์ส่วนมากของพวกเราล้วนมาจากสิ่งเดียวคือ ค่านิยมที่สังคมสร้างขึ้น พวกเราถูกหล่อหลอมกันมาตั้งแต่เด็กว่า
- ต้องเรียนเก่ง เป็นผู้นำถึงจะดูมีอนาคต
- ต้องมีเงินเดือนหลักแสน
- ต้องอัพเดตชีวิตดี ๆ บนโซเชียลมีเดียเป็นประจำ
- ต้องเที่ยวต่างประเทศ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม
- ต้องมีบ้าน มีรถ มีครอบครัวที่สมบูรณ์
ถ้าขาดไปสักข้อ เราจะเริ่มกังวลว่าเราล้มเหลวหรือเปล่า? แต่คุณเคยสังเกตไหมว่า ค่านิยมเหล่านี้ไม่ได้อยู่กับมนุษย์มานานเลย
คิดมากไปทำไม ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยทำพลาดเลย
ฟุกาอิ ริวโนะซุเกะ
สำนักพิมพ์วีเลิร์น (WE LEARN)
รู้ประวัติศาสตร์ ก็หายขาดจากความกลุ้มใจ
ถ้าลองถอยออกมามองย้อนประวัติศาสตร์ยาว ๆ คุณจะเห็นว่าค่านิยมนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ทุกวันนี้ คนที่ทำงานเก่ง หาเงินได้มาก มักจะเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องในสังคม หลายคนจึงมุ่งมั่นทำงาน เก็บเงิน ลงแรงเพื่อสร้างตัวเองขึ้นมา
แต่ถ้าย้อนกลับไปในสมัยเอโดะของญี่ปุ่น คนที่น่านับถือที่สุดกลับไม่ใช่พ่อค้าที่ร่ำรวย แต่คือเหล่าซามูไรหรือชนชั้นขุนนาง แม้จะไม่ได้มั่งคั่งมากมาย แต่กลับเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพจากผู้คน
ในยุโรปยุคกลางก็เช่นกัน คนที่ได้รับความนับถือสูงสุดไม่ใช่ผู้ที่ร่ำรวย แต่คือผู้ที่เคร่งศาสนา
ดังนั้น คนหาเงินเก่งคือคนที่น่านับถือ จึงเป็นค่านิยมที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นไม่นานนัก สืบเนื่องจากการเติบโตของระบบทุนนิยมในช่วงไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา
และถ้ามองให้กว้างขึ้น จะพบว่าค่านิยมอื่น ๆ ก็เคยเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
ในอารยธรรมโบราณ ความรักเพศเดียวกันเคยเป็นเรื่องปกติธรรมดา ก่อนจะถูกมองว่าเป็นสิ่งต้องห้าม และทุกวันนี้ หลายสังคมก็กลับมาให้การยอมรับอย่างเปิดกว้างอีกครั้ง
ขาวสวยหมวยอึ๋ม เคยเป็นสูตรสำเร็จของความงาม แต่ปัจจุบัน ความงามกลับมีหลายรูปแบบ ไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบใดกรอบหนึ่งอีกต่อไป
คำว่า เต้นกินรำกิน เคยเป็นถ้อยคำดูแคลนอาชีพนักร้องนักเต้น แต่ทุกวันนี้ ทั้งไอดอล K-Pop นักแสดงบรอดเวย์ นักดนตรี หรือนักเต้นสตรีท กลับกลายเป็นอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่จำนวนมาก
เมื่อมองภาพใหญ่แบบนี้ จะเห็นว่าค่านิยมที่เรายึดถือกันทุกวันนี้ อาจไม่ได้มีความหมายยิ่งใหญ่เท่าที่คิดเลย หากเปรียบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานนับหมื่นปีของมนุษย์ กับอายุขัยเพียงร้อยปีของเรา
แล้วทำไมคุณถึงยอมให้ “ค่านิยมชั่วคราว” เหล่านี้ มาตัดสินคุณค่าในชีวิตของคุณล่ะ?
ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคุณ
นอกจากคุณฟุกาอิจะเล่าถึงค่านิยมที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุคสมัยแล้ว เขายังหยิบยกเรื่องราวของบุคคลสำคัญระดับโลกมาให้เรามองในอีกแง่มุมที่พวกเขาเองก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ไม่สมบูรณ์แบบเหมือนกับเรา เช่น
นักบุญ มหาตมะ คานธี ที่โลกนับถือ ยังถูกครอบครัวไม่ปลื้มอย่างหนัก… คุณก็ไม่จำเป็นต้องคาดหวังให้ทุกคนชอบคุณหรอก
ขงจื๊อ นักปราชญ์ผู้วางรากฐานความคิดของชาวเอเชีย กว่าครึ่งชีวิตของเขาต้องใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ และจากโลกนี้ไปอย่างทุกข์ใจ
เจงกิสข่าน ผู้ถูกตราหน้าว่าโหดเหี้ยมป่าเถื่อนในยุคสมัยของพวกเรา แต่ในยุคของเขา กลับไม่ได้ถูกมองว่าผิดแปลก และเป็นผู้นำที่น่านับถือด้วย
ผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้ง KFC ที่เจอความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะสำเร็จก็เลยวัยเกษียณไปแล้ว
แม้กระทั่ง พระพุทธเจ้า เอง ก็มีช่วงที่ทำพลาด ลองผิด ลองถูก ก่อนจะค้นพบสัจธรรมชีวิต
ถ้าคนเหล่านี้ยังเคย ไม่สมบูรณ์ แล้วคุณจะกดดันตัวเองจนเป็นทุกข์ไปทำไม?
คิดมากได้ แต่ต้องไม่ปล่อยให้มันกินเรา
ความคิดมากไม่ใช่เรื่องผิด มันคือสัญญาณว่าคุณใส่ใจกับชีวิตตัวเอง แต่ปัญหาคือ เมื่อมันกัดกินคุณจนคุณไม่กล้าทำอะไรเลย หนังสือเล่มนี้เหมือนยื่นมือมาบอกว่า…
คิดมากได้ แต่ขอให้คุณไม่ลืมใช้ชีวิตด้วย
ชีวิตคือการทดลอง เหมือนที่คนในประวัติศาสตร์เคยลองผิดลองถูกมาแล้ว และสิ่งที่พวกเขาทำพลาด กลับกลายเป็นเส้นทางที่เปิดทางให้คนรุ่นหลัง
อย่าเอาชีวิตสั้น ๆ ไปแลกกับค่านิยมชั่วคราว
อายุของมนุษย์เฉลี่ยไม่เกิน 100 ปี แต่ประวัติศาสตร์มนุษย์ยาวเป็นหมื่นปี สิ่งที่คุณกำลังกังวลทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น
- มีแฟนหรือยัง
- ได้โปรโมตหรือยัง
- มีเงินเก็บเท่าไร
- คนในโซเชียลจะมองยังไง
ในสเกลของประวัติศาสตร์ มันเล็กจนแทบไม่เห็น
ถ้าค่านิยมมันเปลี่ยนไปทุก 10-30 ปี แล้วทำไมคุณต้องปล่อยให้มันมากำหนดชีวิตทั้ง 100 ปีของคุณด้วย?
⋆。☁︎。⋆。 ☾ 。⋆
สรุปแล้ว คิดมากไปทำไม ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยทำพลาดเลย คือหนังสือที่ไม่ได้มาชวนให้คุณ บวก จนหลอกตัวเอง แต่มาชวนให้คุณถอยออกมา มองชีวิตจากกรอบกว้าง ๆ ถอยออกมามองชีวิตในเส้นประวัติศาสตร์ยาว ๆ ว่า…
อย่าให้ ค่านิยมชั่วคราว มากำหนดคุณค่าของคุณ
คุณจะได้เห็นว่า
- คนที่โลกยกย่องในวันนี้ ก็เคยผิดพลาดมาแล้ว
- ค่านิยมที่คุณกังวล ไม่ได้สำคัญมากเท่าที่คุณคิด
- ความปกติที่คุณพยายามวิ่งตาม มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
และที่สำคัญที่สุด… คุณเป็นคนธรรมดาได้ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ เพราะแม้แต่ “บุคคลที่ประวัติศาสตร์ยกย่อง” ยังเคยพลาดมาแล้วทั้งนั้น
ดังนั้น ถ้าจะใช้ชีวิต ก็ขอให้ใช้มันในแบบที่คุณอยากเป็น ไม่ใช่ในแบบที่สังคมบอกว่าควรเป็น
คิดมากไปทำไม ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยทำพลาดเลย
ฟุกาอิ ริวโนะซุเกะ
สำนักพิมพ์วีเลิร์น (WE LEARN)